‍🏳️‍🌈 ต้อนรับ Pride month ปีนี้ ด้วยเกร็ดเล็ก ๆ เกี่ยวกับการวางแผนทางการเงิน เพื่ออิสรภาพทางการใช้จ่ายของชาว LGBTQ+ กัน 🌈 แม้ว่าในภาพรวมจะไม่ได้มีความแตกต่างกันมากนัก แต่สำหรับชาว LGBTQ+ แล้ว การวางแผนทางการเงินบางอย่าง อาจมีรายละเอียดหรือเงื่อนไขที่ต่างออกไปเล็กน้อย จะมีข้อไหน อย่างไรบ้าง ก็มาดูกันเลย 

 

1. การซื้อประกัน

ชาว LGBTQ+ สามารถทำประกันได้ทุกอย่าง แต่ในกรณีที่มีการผ่าตัด เช่น เสริมหน้าอก ตัดหน้าอก หรือแปลงเพศ ต้องชี้แจงข้อมูลให้บริษัทประกันทราบอย่างครบถ้วน เพื่อประโยชน์ในการพิจารณารับประกันและการจ่ายสินไหมทดแทน หากปกปิด อาจส่งผลให้ถูกยกเลิกกรมธรรม์ภายหลังได้

และหากสงสัยว่าผู้รับผลประโยชน์เป็นใครได้บ้าง ไม่ใช่ญาติได้หรือไม่? ก็บอกเลยว่า ได้! เพราะแม้กฎหมายจะไม่ได้นับว่าคู่รัก LGBTQ+ เป็นคู่สมรสกัน แต่บริษัทประกันหลาย ๆ แห่งก็ให้สิทธิ์ในการเป็น ‘คู่ชีวิต’ โดยแล้วแต่ว่าบริษัทประกันจะขอหลักฐานอะไรเพิ่มเติม เพื่อเพิ่มน้ำหนักเรื่องความสัมพันธ์ของทั้งสองคนด้วยนั่นเอง

 

2. วางแผนซื้อที่อยู่อาศัย

ในปัจจุบัน มีสถาบันการเงินบางแห่งที่เปิดโอกาสให้คู่รัก LGBTQ+ สามารถขอสินเชื่อที่อยู่อาศัยแบบ “กู้ร่วม” ได้ โดยแต่ละธนาคารมีนโยบายและเงื่อนไขแตกต่างกันออกไป เช่น บางแห่งมีข้อกำหนดเรื่องรายได้ขั้นต่ำ อายุงาน หรือต้องมีหลักฐานแสดงความสัมพันธ์ของทั้งสองคน หรือการอยู่ร่วมกัน เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 1 ปี เช่น ทะเบียนบ้านที่อยู่ด้วยกัน  ผู้ขอกู้ควรสอบถามข้อมูลส่วนนี้ให้ชัดเจน และพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนตัดสินใจ 

 

3. แผนการเกษียณอายุ

ชาว LGBTQ+ มีโอกาสไม่มากนักที่จะมีลูก จึงต้องดูแลตัวเอง และคู่ชีวิตไปจนแก่เฒ่า ดังนั้น การวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณจึงเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเลือกลงทุนเพื่อเพิ่มพูนสินทรัพย์ หรือจะเก็บออมเพื่อใช้ในยามเกษียณ ก็ล้วนเป็นเรื่องที่มองข้ามไม่ได้ และต้องวางแผนอย่างแม่นยำ  เช่น อาจเลือกลงทุนในกองทุน RMF เพื่อเก็บเงินไว้ใช้ยามเกษียณ เป็นต้น