5 วิธี ซื้อของเข้าบ้านยังไงให้กระเป๋าไม่ฉีก 

การรัดเข็มขัด จัดระเบียบการใช้จ่าย ถือเป็นเรื่องที่ควรทำและสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการชอปปิ้งของกินของใช้ในบ้านให้ประหยัดและคุ้มค่ากับเงินในกระเป๋ามากที่สุด ซึ่งจะทำอย่างไร ไปดูขั้นตอนต่าง ๆ กันได้เลย 

 

STEP 1 : วางแผนก่อนลุย (กำหนดงบประมาณ) 

แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ไม่ได้มีแค่ของกินของใช้ เท่านั้น ยังมีค่าน้ำ, ค่าไฟ, ค่าผ่อนบ้าน, ค่าผ่อนรถ และอื่น ๆ อีกมากมาย จึงต้องวางแผนรายรับรายจ่ายให้ดี กำหนดงบประมาณที่เหมาะสม โดยส่วนมากจะแบ่งไว้ชอป 15 – 20 % ของเงินเดือน และที่สำคัญเมื่อกำหนดงบประมาณแล้ว ควรบริหารให้เพียงพอ เพื่อไม่ให้กระทบค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น

 

STEP 2 : ทำ Checklist ของใช้จำเป็น

อย่าเดินชอปปิ้งอย่างไรทิศทาง คิดไปชอปไป โดยไม่ผ่านการวางแผนมาก่อน มีโอกาสสูงที่เราจะซื้อของที่ไม่จำเป็นติดไม้ติดมือกลับมา หรือซื้อของไม่ครบตามจำนวนที่ต้องการ ทำให้เกิดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น แถมอาจจะต้องออกไปชอปปิ้งอีกหลายรอบ ฉะนั้นก่อนออกไปชอปปิ้ง ควรทำ Checklist ของใช้จำเป็น ก่อนทุกครั้ง ประเมินอย่างถี่ถ้วนรอบคอบว่าสิ่งใดขาด สิ่งใดจำเป็นและไม่จำเป็น เพื่อให้การจับจ่ายใช้สอยแต่ละครั้ง ตรงตามความต้องการ และมีประสิทธิภาพสูงสุด 

 

STEP 3 : เปรียบเทียบราคา ซื้อออนไลน์ก็ดีนะ

เมื่อวางแผนจดรายการของกินของใช้ที่ต้องซื้อ ก็ควรเปรียบเทียบราคาก่อนซื้อเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเปรียบเทียบระหว่างซูเปอร์มาร์เก็ตแต่ละแห่ง ไปจนถึงการเปรียบเทียบกับการชอปออนไลน์ในแอปพลิเคชัน บางทีการซื้อของออนไลน์อาจถูกกว่า แถมไม่ต้องแบกของให้หนักด้วยนะ 

 

STEP 4 : ซื้อยกแพ็ก ประหยัดได้เยอะ

ของที่ใช้ประจำ และมีอายุการใช้งานเป็นเวลานาน เช่น น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก ทิชชู สามารถซื้อยกแพ็กใหญ่จะคุ้มกว่า ประหยัดเงินในกระเป๋าได้เยอะ แต่ต้องมั่นใจว่ามีที่เก็บ และใช้ทัน

 

STEP 5 : กำหนดวันซื้อของเข้าบ้านที่ชัดเจน 

การออกไปชอปปิ้งที่ซูเปอร์มาร์เก็ต และการชอปปิ้งออนไลน์แต่ละครั้ง ล้วนมีค่าใช้จ่ายแอบแฝงอย่างค่าเดินทาง และค่าขนส่งสินค้า จึงควรกำหนดความถี่ให้ดี หรือซื้อวันที่ร้านค้าและซูเปอร์มาร์เก็ตจะจัดโปรโมชันลดราคา  

 
สุดท้ายเคล็ดลับของการชอปของกินของใช้ให้ได้ราคาถูกและดี ล้วนมาจากการวางแผนล่วงหน้าทั้งสิ้น และการประหยัดไม่ใช่การงดใช้จ่าย แต่คือ "ใช้จ่ายอย่างฉลาด"